นักมวย One championship ตัวเต็งประจำปี 2025

ONE Championship เติบโตอย่างต่อเนื่องในปี 2025 โดยเฉพาะบนเวทีระดับโลกที่มีนักสู้ฝีมือดีมากมายเข้าร่วมแข่งขัน การเป็น “ตัวเต็ง” ของ มวย ONE Championship ไม่ได้วัดเพียงแค่ชัยชนะที่สะสมมาในอดีตเท่านั้น แต่ยังรวมถึงปัจจัยด้านความต่อเนื่องของฟอร์มการชก ความยืดหยุ่นของสไตล์การต่อสู้ ความสามารถในการรับมือกับแรงกดดัน
ก่อนเข้า แทงมวยวัน การวิเคราะห์ตัวเต็งในแต่ละรุ่นของ ONE จึงมาจากภาพรวมของนักกีฬาแต่ละคน ทั้งในและนอกสังเวียน ตัวเต็งมักจะถูกคาดหวังให้สร้างไฟต์ที่น่าจดจำ และมีบทบาทสำคัญต่อทิศทางของแต่ละรุ่นในอนาคต เช่น การเปิดศึกกับคู่ชกระดับตำนาน หรือการเป็นแรงผลักดันให้นักสู้รุ่นใหม่กล้าก้าวขึ้นมาแข่งขัน ในปี 2025 นี้ แฟนมวยจึงสามารถคาดหวังได้ว่าจะได้เห็นการแข่งขันที่ดุเดือดมากขึ้น ระหว่างนักสู้ที่ไม่ใช่แค่เก่งในเชิงเทคนิค แต่ยังมีวินัย กลยุทธ์ และสภาพจิตใจที่แกร่งพอจะรับมือกับทุกความกดดัน ตัวเต็งของปีนี้จะไม่ใช่แค่ผู้ล่าเข็มขัดแชมป์เท่านั้น แต่คือสัญลักษณ์ของความท้าทาย และการเปลี่ยนผ่านของยุคใหม่แห่งวงการศิลปะการต่อสู้แบบผสมผสานในระดับโลก
นิยามคำว่า “ตัวเต็ง” ในมุมมองของ ONE Championship
“ตัวเต็ง” ในบริบทของ ONE ไม่ใช่แค่ผู้ที่ชนะบ่อย หรือมีชื่ออยู่ในอันดับต้น ๆ ของแรงกิ้งเท่านั้น แต่ต้องเป็นผู้ที่แสดงให้เห็นถึงพัฒนาการ ความมั่นคงในเกมการต่อสู้ และสามารถดึงดูดความสนใจทั้งจากแฟนมวยและสื่อมวลชนอย่างต่อเนื่องแม้ว่าจะไม่ได้ครองแชมป์ในขณะนั้น แต่กลับได้รับการจับตามองว่าเป็นตัวเต็งเพราะฟอร์มการชกที่มุ่งมั่น น่าสนใจ หรือสามารถเอาชนะคู่ชกระดับแถวหน้าได้อย่างเหนือความคาดหมาย
ปัจจัยหลักที่ ONE ใช้พิจารณาว่าใครคือ “ตัวเต็ง” ได้แก่
- สถิติการชกที่มั่นคงและน่าประทับใจ – ไม่ใช่แค่ชนะบ่อย แต่ต้องมีคุณภาพในการชก เช่น ชนะน็อกเอาต์เร็ว ชนะคะแนนขาด หรือป้องกันตัวได้ยอดเยี่ยม
- ประวัติการพบกับคู่ชกระดับสูง – นักมวยที่สามารถเอาชนะหรือสู้อย่างสูสี กับผู้ที่เคยเป็นแชมป์หรือยังคงรักษาอันดับท็อปไว้ได้
- ศักยภาพในการสร้างสีสันและกระแส – ตัวเต็งมักเป็นผู้ที่มีสไตล์การชกที่เร้าใจ สื่อสารเก่ง หรือมีคาแรกเตอร์ที่ชัดเจนบนเวทีและนอกเวที
- การพัฒนาอย่างต่อเนื่อง – แม้จะแพ้ในบางครั้ง แต่หากแสดงให้เห็นถึงความตั้งใจ ความพัฒนา และการกลับมาได้อย่างแข็งแกร่ง ก็ยังสามารถนับเป็น “ตัวเต็ง” ได้
สุดท้าย คำว่า “ตัวเต็ง” สำหรับ ONE Championship ไม่ได้ถูกมอบให้จากตำแหน่งเพียงอย่างเดียว แต่คือการยอมรับโดยพฤตินัยจากทั้งองค์กร แฟนคลับ และวงการมวยโดยรวม ซึ่งสะท้อนออกมาในทุกไฟต์ที่นักมวยเหล่านี้ขึ้นเวที
รายชื่อนักมวยตัวเต็งในประเภทต่างๆ (อัปเดตล่าสุด)
ในแต่ละเดือนของศึก ONE Championship การเปลี่ยนแปลงของ “ตัวเต็ง” ในแต่ละรุ่นน้ำหนักมักจะชัดเจนตามผลงานของนักมวยที่ขึ้นชก ไม่ว่าจะเป็นประเภทมวยไทย คิกบ็อกซิ่ง หรือการต่อสู้แบบผสมผสาน (MMA) ต่างมีผู้เข้าแข่งขันที่ฟอร์มร้อนแรง และมีแนวโน้มก้าวขึ้นสู่ตำแหน่งแชมป์โลกในอนาคตอันใกล้ ซึ่งรายชื่อที่กำลังจะกล่าวถึงต่อไปนี้คือ “ตัวเต็ง” ประจำปี 2025 ซึ่งได้รับการจับตามองจากทั้งแฟนคลับและนักวิเคราะห์สายมวย
🥋 ตัวเต็งอันดับต้น
- Adriano “Mikinho” Moraes (บราซิล) อดีตแชมป์โลกถึง 3 สมัย, ยึดเข็มขัดเป็นคนแรกของรุ่นนี้, ครองตำแหน่งได้ถึงแมตช์สุดท้ายก่อนแพ้ Wakamatsu ปัจจุบันรั้งอันดับ 1 ของแรงกิง MMA ฟลายเวต
- Demetrious “Mighty Mouse” Johnson (สหรัฐฯ) อดีตแชมป์ UFC ที่ย้ายมาแข่งใน ONE ก่อนประกาศรีไทร์ในเดือน ก.ย. 2024 รั้งอันดับ 2 ของแรงกิง ONE ฟลายเวต MMA
- Danny “The King” Kingad (ฟิลิปปินส์) แชมป์ ONE Flyweight World Grand Prix รอบรองฯ, รั้งอันดับ 2 ของ ONE MMA flyweight มีสถิติ MMA 15–5 และสถิติ ONE MMA 11–5
รุ่นฟลายเวต (Flyweight) – MMA
ในสายของ MMA รุ่นฟลายเวต เป็นที่น่าจับตาอย่างมากในปีนี้ โดยเฉพาะนักสู้ที่มีสถิติไร้พ่าย ตัวเต็งในรุ่นนี้คือผู้ที่สามารถควบคุมจังหวะของเกมได้ทั้งยืนและนอน ความครบเครื่องทั้งในเกมรุกและเกมรับคือปัจจัยสำคัญที่ทำให้เขาถูกยกเป็นตัวเต็งอย่างต่อเนื่อง
ตัวเต็งอันดับต้น
- Superlek Kiatmuu9 – ถือว่าเป็นอดีตแชมป์ที่ถูกร่นฐานะหลังน้ำหนักไม่ผ่าน แต่ยังเป็นอดีตแชมป์โลกและแชมป์อีกหลายรุ่นใน ONE
- Jonathan Haggerty – แม้เพิ่งพ่ายให้ Superlek ในเทิร์นบีขายังเป็นอดีตแชมป์แบนตัมเวตมวยไทยและแชมป์คิกบ็อกซิ่ง ยังติดหนึ่งในห้าด้วยฟอร์มเข้มแข็ง
- Felipe Lobo – รั้งอันดับ 3 ตามการจัดอันดับ เดือนมิถุนายน/กรกฎาคม และมีผลงานที่โดดเด่นในไฟต์ล่าสุด
รุ่นแบนตัมเวต (Bantamweight) – มวยไทย
สำหรับมวยไทยในรุ่นแบนตัมเวต การแข่งขันดุเดือดอย่างต่อเนื่อง นักชกที่ขึ้นแท่นตัวเต็งในรุ่นนี้มีสไตล์การชกเน้นความเร็วและความแม่นยำ ประกอบกับฟอร์มล่าสุดที่สามารถเอาชนะคู่แข่งระดับแนวหน้าได้อย่างเด็ดขาด การออกอาวุธที่หลากหลายและการคุมเกมบนเวทีคือจุดแข็งที่ทำให้ชื่อของเขาติดลิสต์ตัวเต็ง
ตัวเต็งอันดับต้น
- Nieky Holzken – อดีตนักสู้ตำนาน เคยท้าชิงหลายครั้ง
- Mustapha Haida – กำลังไต่เข้ามาเป็นผู้ท้าชิงหนต่อไป
- Anthony Njokuani – เต็มไปด้วยtechnical และประสบการณ์สูง
รุ่นไลต์เวต (Lightweight) – คิกบ็อกซิ่ง
ในประเภทคิกบ็อกซิ่ง รุ่นไลต์เวตมีนักชกสายบู๊ที่มาแรงอย่างเห็นได้ชัด ความสามารถในการทำคะแนนจากหมัดและเตะที่หนักแน่น รวมถึงสเต็ปเท้าที่ว่องไว ทำให้เป็นคู่ต่อสู้ที่รับมือได้ยาก ซึ่งจากฟอร์มล่าสุดไม่เพียงแต่ชนะอย่างต่อเนื่องเท่านั้น แต่ยังสามารถล้มคู่ต่อสู้ด้วยน็อกเอาต์ได้ในยกต้นๆ จนถูกจัดให้อยู่ในตำแหน่งตัวเต็งของเดือนนี้
ตัวเต็งอันดับต้น
- Tang Kai (C) แชมป์ปัจจุบัน จุดขายคือพลังชกและทำจุดจบได้หลายครั้ง thebodylockmma.com+7en.wikipedia.org+7knowpia.com+7
- Akbar Abdullaev สถิติไม่แพ้ใคร 12–0 กำลังขึ้นมาจากตำแหน่งรองแม่ข่าย ปะทะ Tang Kai ใน ONE Fight Night 27
- Thanh Le อดีตแชมป์ชาวสหรัฐเชื้อสายเวียดนามเคยครองตำแหน่ง interim และแพ้ Tang Kai ไปล่าสุด
รุ่นเฟเธอร์เวต (Featherweight) – MMA
นักสู้ในรุ่นเฟเธอร์เวตที่ถูกมองว่าเป็นตัวเต็งในปัจจุบันนั้น มีทั้งสถิติที่ยอดเยี่ยมและพัฒนาการที่น่าทึ่งในช่วงไม่กี่เดือนที่ผ่านมา เขาสามารถปรับเกมรับมือคู่ต่อสู้ที่มีสไตล์ต่างกันได้อย่างชาญฉลาด และยังมีท่าจบเกมที่เฉียบคม ซึ่งถือว่าเป็นจุดแข็งที่ทำให้เขาเหนือกว่านักชกคนอื่นในรุ่นเดียวกัน
วิเคราะห์จุดแข็ง - จุดอ่อนของนักมวยตัวเต็งแต่ละคน
นักมวยตัวเต็งแต่ละคนต่างมีจุดแข็งที่ทำให้พวกเขาโดดเด่นเหนือคู่แข่ง แต่ในขณะเดียวกันก็มีจุดอ่อนที่อาจกลายเป็นช่องโหว่ในเกม หากฝ่ายตรงข้ามสามารถอ่านออกและใช้ประโยชน์ได้อย่างถูกจังหวะ การวิเคราะห์จุดแข็ง-จุดอ่อนจึงเป็นสิ่งสำคัญสำหรับทั้งแฟนมวยและนักเดิมพันที่ต้องการอ่านเกมอย่างแม่นยำ ซึ่งการวิเคราะห์นักมวยแต่ละคนต้องมองแบบองค์รวม ไม่ใช่เพียงสถิติการชนะหรือชื่อเสียงเท่านั้น แต่ต้องดูพัฒนาการ การฟิตซ้อมล่าสุด และจิตวิทยาในการขึ้นสังเวียน เพราะแม้แต่นักมวยที่ดูแข็งแกร่งที่สุด หากขาดความมั่นใจหรือมีปัญหาในการปรับตัวต่อคู่ชก ก็มีโอกาสพ่ายแพ้ได้อย่างไม่คาดคิด
นักชก | จุดเด่น | จุดด้อย |
Adriano “Mikinho” Moraes | – เชี่ยวชาญ BJJ (Brazilian Jiu-Jitsu) และการเล่นเกมพื้น – มีประสบการณ์สูงในรุ่นฟลายเวต – รูปร่างสูงยาวสำหรับรุ่นน้ำหนัก ทำให้เล่นระยะได้ดี | – การยืนสู้ยังมีจุดอ่อนเมื่อเจอ striker ระดับสูง – บางครั้งเล่นเกมรับมากเกินไปจนเสียจังหวะบุก – ไม่คงเส้นคงวาเมื่อโดนกดดัน |
Superlek Kiatmuu9 | – เป็นหนึ่งในนักมวยไทยที่มี เทคนิคเตะที่หนักและแม่นยำ – มีประสบการณ์ในมวยไทยระดับสูงมาอย่างยาวนาน – พัฒนาเกมยืนแบบคิกบ็อกซิ่งได้ดีมากใน ONE | – ยังปรับตัวกับเกมป้องกันลูกจับล็อกหรือ grappling ได้ไม่สมบูรณ์ – อาจเสียเปรียบเมื่อคู่ชกใช้สไตล์รวดเร็วและเข้าออกเร็ว – บางไฟต์ชกค่อนข้างรอ |
Nieky Holzken | – มีประสบการณ์ใน Kickboxing และ Muay Thai ระดับโลก – พลังหมัดและลูกเตะหนัก – มีสายตาการออกอาวุธที่ชัดและวางจังหวะดี | – อายุเริ่มมาก ทำให้ความเร็วลดลงเมื่อเทียบกับนักชกรุ่นใหม่ – การป้องกันศีรษะจากลูกหมัดยังมีช่องโหว่ – เกมรับเมื่อถอยหลังยังอ่อน |
Tang Kai | – มีฝีมือ striking ที่หลากหลายและแม่นยำ โดยเฉพาะหมัดและการเคลื่อนที่ – จังหวะ counter ที่อันตราย – ฟอร์มช่วงหลังร้อนแรง สถิติชนะหลายไฟต์รวด | – ยังไม่ผ่านบททดสอบกับ grappler ตัวจริงมากนัก – เกม ground defense ยังไม่โดดเด่น – หากไม่ได้ควบคุมเกมกลางเวที อาจเสียเปรียบ |
เจาะลึกสถิตินักมวย ONE 6 เดือนหลังที่นักพนันควรรู้
หนึ่งในแนวโน้มสำคัญของช่วงครึ่งปีแรกคือ “การพลิกล็อก” ที่เกิดขึ้นบ่อยกว่าที่ผ่านมา โดยเฉพาะในรุ่นฟลายเวตและแบนตัมเวต นักชกที่ไม่ใช่ตัวเต็งกลับเอาชนะนักมวยอันดับต้นๆ ได้หลายครั้ง ทำให้การอ้างอิงเพียงแค่ชื่อเสียงหรืออันดับไม่เพียงพออีกต่อไป นักเดิมพันต้องลงลึกถึงสถิติการขึ้นชกแบบไฟต์ต่อไฟต์ โดยจากข้อมูลย้อนหลัง 6 เดือน มีนักมวยบางคนที่ชนะรวดถึง 3-4 ไฟต์ติดต่อกัน โดยเฉลี่ยมีอัตราการจบการแข่งขันก่อนครบยกสูงถึง 70% ซึ่งถือเป็นค่าที่สูงกว่ามาตรฐานของรุ่นน้ำหนักเดียวกัน การวิเคราะห์ลักษณะเช่นนี้จะทำให้สามารถคาดการณ์ได้ว่าคู่ชกของเขาในไฟต์ถัดไปจะรับมืออย่างไร และมีแนวโน้มชนะมากน้อยเพียงใด
“การชกในบ้านหรือชกต่างแดน” อีกจุดที่ไม่ควรมองข้ามนักมวยบางคนแสดงศักยภาพได้ดีเมื่อชกในประเทศตัวเอง แต่เมื่อเดินทางไปต่างถิ่น กลับมีเปอร์เซ็นต์แพ้ที่สูงขึ้นอย่างมีนัยยะ นี่คือสิ่งที่นักเดิมพันมักมองข้าม เพราะมักให้ความสำคัญแค่ตัวนักมวย แต่ลืมคำนึงถึงสภาพแวดล้อมที่ส่งผลต่อสภาพจิตใจและความมั่นใจของนักกีฬาและในด้านของอัตราการเปลี่ยนแปลงสไตล์การชก พบว่านักมวยบางรายมีพัฒนาการอย่างเห็นได้ชัด เช่น จากเดิมที่อาศัยความไวและการถอยรับ กลายมาเป็นนักชกบู๊เดินหน้า ซึ่งทำให้รูปแบบการแข่งขันเปลี่ยนไป ส่งผลโดยตรงต่อการประเมิน “สูง-ต่ำ” ของจำนวนยกในบิลเดิมพัน
นักมวยวันที่น่าจับตามอง จากมุมมองจากกูรูมวย
ในปี 2025 นี้ วงการมวย ONE Championship เต็มไปด้วยนักชกที่มีศักยภาพสูง กูรูมวยจากหลายเวทีต่างจับตามองนักมวยบางรายที่แสดงให้เห็นถึงความพร้อมทั้งด้านฝีมือ พัฒนาการ และศักยภาพในการขึ้นไปเป็นแชมป์โลกหรือสร้างกระแสในอนาคตอันใกล้ ซึ่งนักมวยที่น่าจับตามองเหล่านี้ล้วนมีจุดเด่นเฉพาะตัว และนี่คือตัวอย่างของนักชกที่ได้รับการกล่าวถึงจากสายตาของผู้เชี่ยวชาญ
นักมวยไทยสไตล์มวยไทยและคิกบ็อกซิ่ง
- รถถัง จิตรเมืองนนท์ – แชมป์โลก ONE มวยไทยรุ่นฟลายเวต (Flyweight) ขวัญใจแฟนมวยสายบู๊ สไตล์เดินหน้าแลกหมัดหนัก เขาได้รับค่าตัวสูงหลังน็อก “ทาเครุ” ใน ONE 172 ที่ญี่ปุ่น
- ตะวันฉาย พี.เค.แสนชัยฯ – แชมป์โลกมวยไทยรุ่นเฟเธอร์เวต (Featherweight) มีทั้งความเร็วและเทคนิค เคยป้องกันแชมป์หลายครั้ง รวมทั้งการชนะ Jo Nattawut และ Superbon
- ซุปเปอร์เล็ก เกียรติหมู่ 9 – เจ้าของฉายา “The Kicking Machine” แชมป์โลกคิกบ็อกซิ่งเฟเธอร์เวต เทคนิคครบเครื่อง เตะขวาทรงพลัง
- ซุปเปอร์บอน สิงห์มาวิน – อดีตแชมป์โลกคิกบ็อกซิ่งเฟเธอร์เวต โด่งดังจากการโค่น “จอร์จิโอ เปโตรเซียน” และกลับขึ้นมาเก่งอีกครั้งในปี 2025
- เสมาเพชร แฟร์เท็กซ์ – นักชกสายบู๊ในรุ่นแบนตัมเวต (Bantamweight Muay Thai) มีหมัดซ้ายทรงพลัง และเป็นคู่ชกสำคัญของ “อับดุลลา ดายาคาเอฟ”
- แสตมป์ แฟร์เท็กซ์ – อดีตแชมป์โลกหญิงทั้งคิกบ็อกซิ่งและมวยไทย ปัจจุบันผันตัวสู่ MMA และเป็นแรงบันดาลใจให้ผู้หญิงไทยมากมาย
🌍 นักชกต่างชาติดาวรุ่ง & แชมป์ปัจจุบัน
- Jonathan Haggerty – แชมป์โลกคิกบ็อกซิ่งรุ่นแบนตัมเวต และอดีตแชมป์มวยไทย รุ่นเฟเธอร์‑และฟลายเวต ชาวอังกฤษ มือวางอันดับต้นๆของ ONE
- Rodtang Jitmuangnon – แชมป์โลกมวยไทยฟลายเวตสุดโหด โด่งดังจากการชกกับ Haggerty และรักษาแชมป์ไว้ด้วยสไตล์เหล็กเช่นเดิม
- Prajanchai PK Saenchai – แชมป์โลกมวยไทย & คิกบ็อกซิ่งสตอรวเวต (Strawweight) มีศักดิ์ศรีสูงในเวที Lumpinee/Rajadamnern และ ONE
🔥 นักมวยลุมพินีดาวรุ่งที่เพิ่งเซ็นสัญญา ONE
- เสกสรร อ.ขวัญเมือง – นักชกจาก ONE ลุมพินี ฟอร์มร้อน ชนะ 6 ไฟต์รวดพร้อมโบนัสทุกไฟต์ จนได้สัญญา ONE
- โจฮัน กาซาลี (Johan Ghazali) – ดาวรุ่งผิวผสม มาเลเซีย–อเมริกัน เพิ่งชนะนอกรอบและรับสัญญาเมื่ออายุเพียง 16 ปี
- อาลีฟ ส.เดชะพันธ์ (Aliff Sor Dechapan) – นักชกไทย–มาเลย์อายุ 19 ชนะน็อกตั้งแต่ยกแรกใน ONE ลุมพินี และคว้าสัญญาเดิมพันยิ่งใหญ่ตามรอย “ตะวันฉาย”